“เงินสี่ด้าน” หมายถึง รายได้ที่มาจากงานสี่ประเภท E (Employee) – ลูกจ้าง , พนักงานประจำ คนกลุ่มนี้ทำงานให้ระบบ รายได้มีจำกัด ต้องทำงานไปตลอด หยุดทำงานไม่ได้ ถ้าหยุด รายได้ก็หยุด S (Self-Employed) – ธุรกิจส่วนตัว , เปิดร้าน คนกลุ่มนี้ ตัวเค้าเองเป็นระบบ ก็ไม่สามารถหยุดทำงานได้เช่นกัน ถ้าเค้าปิดร้าน ก็จะไม่มีรายได้ และเป็นกลุ่มคนที่ต้องการงานหนักที่สุด กว่าด้านอื่นๆ เพราะ ต้องทำเองเกือบทั้งหมด บ้างคนทำตั้งแต่ เจ้าของร้าน ยัน คนทำความสะอาด B (Business Owner) – เจ้าของกิจการ คนกลุ่มนี้ เป็นเจ้าของระบบ เมื่อระบบอยู่ตัวแล้ว ก็สามารถ หยุดทำงานได้ จะไปท่องเที่ยวเป็นอาทิตย์ หรือ เป็นเดือน ก็ได้ แต่ยังคงมีรายได้อยู่ เช่น คุณอาจจะสร้างบริษัท ที่ให้บริการ เครือข่ายมือถือ สักคลื่นนึง ไม่ว่าคุณจะนอน , ไม่ได้ทำงาน , ไปท่องเที่ยวทั่วโลก ถ้าลูกค้าคุณยังโทรศัพท์กันอยู่ คุณก็ยังคงมีรายได้อยู่ I (Investor) – นักลงทุน คนกลุ่มนี้ นำเงินไปลงทุนในระบบ เช่น ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ถ้ายกตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้น เช่น อาชีพหมอ

• ถ้าหมอคนนี้ ไปรับเข้าเวรตามโรงยาบาลต่างๆ หมอคนนี้จะเป็น E ถ้าไม่สามารถไปทำงานได้ อาจจะป่วย ลาหยุด ไปพักร้อนเป็นเวลานานๆ ก็จะไม่มีรายได้
• ถ้าหมอคนนี้ มาเปิดคลินิกเป็นขอตัวเอง หมอคนนี้จะเป็น S ถ้าปิดคลินิก อาจจะป่วย หรือ ไปพักร้อน เป็นเวลานานๆ ก็จะไม่มีรายได้
• ถ้าหมอคนนี้ สร้างโรงพยาบาลขึ้นมา แล้วจัดหา เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ผอ. , พยาบาล , หมอ ,…. มาทำงาน ดูแลให้ทุกฝ่ายทำงานได้ หมอคนนี้จะเป็น B ตัวเค้าเอง ก็ไม่ได้ต้องทำงานตลอด ถึงเค้าจะไม่อยู่ ไปเที่ยวพักร้อน แต่ระบบโรงพยาบาล ยังคงดำเนินต่อไปได้ รายได้เค้าก็ยังได้รับอยู่ตลอด
• ถ้าหมอคนนี้ เอาเงินไปลงทุน หรือ ไปเข้าหุ้น กับคนที่เค้าสร้างโรงพยาบาล แล้วก็ รอรับเงินปันผล หมอคนนี้ก็จะเป็น I ก็ไม่ต้องมานั่งทำงานตลอดเวลา เหมือนกัน

จะเห็นว่า ถ้าเราอยู่ทางฝั่งซ้าย ของเงินสี่ด้าน คือ E , S เราจะต้องงานไปตลอด หยุดทำ รายได้ก็หยุด ถ้าเราอยู่ทางฝั่งขวา ของเงินสี่ด้าน คือ B , I เราจะมีอิสรภาพ ไม่ต้องมานั่งทำงานตลอดเวลา วันนี้ ถ้าเราเลือกได้ เราอยากอยู่ด้านไหน ของเงินสี่ด้าน? แล้วตอนนี้ เราอยู่ด้านไหนของเงินสี่ด้าน ? แล้วอีก 5ปี เราจะยังอยู่ด้านไหน ของเงินสี่ด้าน ? แล้วอีก 10ปี เราจะยังอยู่ด้านไหน ของเงินสี่ด้าน ?